
 
           โปรแกรม BassBox Pro  นั้นถือเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมอย่างมาก  สำหรับมืออาชีพในการออกแบบตู้ลำโพงหรือตู้ซับวูฟเฟอร์  โปรแกรมนี้สามารถช่วยในการออกแบบตู้ซับวูฟเฟอร์ได้หลากหลายรูปแบบ  รวมถึงการประยุกต์ใช้งานได้ในกรณีต่างๆ อย่างมากมายอีกด้วย  ทั้งระบบเสียงไฮไฟภายในบ้าน, ระบบเสียงเพื่อการชมภาพยนตร์, ระบบเสียงในรถเก๋ง,  ระบบเสียงในรถบรรทุก, รถแวน, ระบบเสียงที่เน้นความเป็นมืออาชีพ,  ระบบเสียงเพื่อฟังวิเคราะห์ในห้องบันทึกเสียง, ระบบเสียงเพื่อฟังบนเวทีแสดงดนตรี,  ระบบเสียงเพื่อสาธารณะ, ระบบเสียงของชิ้นดนตรี และอื่นๆ อีกมากมาย
                 โปรแกรม BassBox Pro ช่วยท่านในแนวทางการออกแบบตู้ลำโพงได้ใน 3  กรณีหลักด้วยกัน อันได้แก่ 
               1)  กรณีที่ต้องการทราบว่าลำโพงรุ่นนั้นๆ จะให้เสียงออกมาเป็นเช่นไร  เมื่อติดตั้งเข้าไปในตู้บรรจุ
                2)  กรณีที่ต้องการทราบว่าลำโพงรุ่นนั้นๆ จะให้เสียงออกมาได้ดังมากเพียงใด  และมีขีดจำกัดทางด้านพลังเสียงที่ระดับใด
                3)  ช่วยในการออกแบบ/คำนวณขนาดของตู้บรรจุแบบต่างๆ
เราเห็นเสียงของลำโพงได้อย่างไร
                 รูปแบบเสียงของลำโพงในส่วนนี้  เราจะเรียกกันว่าการวิเคราะห์สัญญาณขนาดเล็ก “small-signal”  เหตุก็เพราะว่ามันเป็นการตรวจสอบลำโพงด้วยกำลังในระดับต่ำ โปรแกรม BassBox Pro  จะแสดงในรูปแบบกราฟของเสียงดังต่อไปนี้
                -  กราฟการตอบสนองคลื่นปกติ(กราฟการตอบสนองความถี่) [Normalized Amplitude  Response]
                - กราฟการตอบสนองทางอิมพีแดนซ์ของระบบ [System  Impedance Response]
                - กราฟการตอบสนองทางเฟส [Phase  Response]
                - กราฟการตอบสนองของกลุ่มเสียงหน่วง [Group  Delay]
ระดับความดังสูงสุดและขีดจำกัดทางกำลังเสียง
                 รูปจำลองความดังเสียงของลำโพงนี้  เรามักเรียกกันว่าการวิเคราะห์สัญญาณขนาดใหญ่ “large-signal”  เหตุเพราะมันเป็นการตรวจสอบลำโพงด้วยกำลังในระดับสูง โปรแกรม BassBox Pro  จะแสดงในรูปแบบกราฟของเสียงดังต่อไปนี้
                -  กราฟการตอบสนองของคลื่น ตามกำลังวัตต์หรือแรงดันไฟที่ป้อนเข้าไป [“Custom”  Amplitude Response for desired input power or voltage]
                -  การขับเคลื่อนและกำลังทางเสียงสูงสุดที่อุณหภูมิจำกัด [displacement and  thermal-limited Maximum Acoustic Power]
                -  การขับเคลื่อนและกำลังทางไฟฟ้าสูงสุดที่อุณหภูมิจำกัด [displacement and  thermal-limited Maximum Electrical Input Power]
                -  การขยับกรวยตามกำลังวัตต์หรือแรงดันไฟ [Cone Displacement for a desired input  power or voltage]
                -  ความเร็วลมที่วิ่งผ่านท่อระบายตามกำลังวัตต์หรือแรงดันไฟ [Vent Air Velocity for a  desired input power or voltage]
                โดยที่กราฟต่างๆ  ที่ได้จากโปรแกรม BassBox Pro เหล่านี้ ช่วยในการประเมินคุณค่าของงานออกแบบตู้ลำโพง  และเติมเต็มเป้าหมายในการออกแบบให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
สัดส่วนของตู้เบส
                 โปรแกรม BassBox Pro ได้จัดเตรียมรูปแบบของตู้เบสเอาไว้มากถึง 18  รูปแบบ สำหรับทั้งตู้ปิด, ตู้เปิด และตู้เบสแบบพาสซีฟ-เรดิเอเตอร์  รวมถึงตู้แบนพาสแบบสองและสามห้อง  มุมมองของสัดส่วนตู้เบสนั้นสามารถเลือกได้ทั้งมองที่ภายในและมองที่ภายนอก  และเห็นเหลี่ยมมุมครบทั้งสามมิติ โดยแสดงเป็นรูปภาพลายเส้นโปร่ง  และสำหรับรูปทรงของตู้นี้ผู้ใช้สามารถกำหนดความหนาของไม้ที่จะใช้ทำตู้ได้อย่างอิสระ  และแยกส่วนความหนาของไม้ระหว่างด้านประกอบตู้และแผงด้านหน้าตู้  (ในตำแหน่งที่ใช้ยึดลำโพง)ได้ โปรแกรมสามารถคำนวณหาส่วนต่างๆ ได้เอง  เมื่อกำหนดสัดส่วนลงไปในโปรแกรมเพียงสองด้านในแต่ละส่วน  รวมถึงการคำนวณมุมองศาให้ได้เองจากโปรแกรม
มุมมองของโปรแกรม
                 หัวใจหลักของโปรแกรม BassBox Pro  ก็คือส่วนที่เป็นหน้าต่างหลักซึ่งรวมถึงช่องงานออกแบบ  ในแต่ละช่องงานออกแบบจะยอมให้ผู้ใช้ทำการออกแบบได้อิสระต่อกัน  (แต่สามารถใช้ข้อมูลเดียวกันได้) และสามารถทำการออกแบบได้พร้อมกันสูงสุด 10  ช่องงานออกแบบ ทั้งยังสามารถเปิดใช้งานและดูการแสดงผลได้ในเวลาเดียวกัน
                 ในกรณีที่เปิดช่องงานออกแบบจนล้นหน้าต่างหลัก  ท่านสามารถใช้แถบเลื่อนทางด้านล่างของหน้าต่างหลักเพื่อเลื่อนซ้าย/ขวาดูช่องงานออกแบบแต่ละช่องทั้ง  10 ช่องได้
                หน้าต่างหลักของโปรแกรมสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้  และความสูงของช่องงานออกแบบ ก็จะปรับเปลี่ยนตามไปให้พอดีโดยอัตโนมัติ  ส่วนความกว้างของช่องงานออกแบบจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้
                 องค์ประกอบหลักของส่วนหน้าต่างหลักในโปรแกรม ก็ประกอบด้วย
 
 
Title  bar 
เป็นส่วนแสดงชื่อโปรแกรมรวมถึงปุ่มเพื่อการปรับเปลี่ยนขนาดหน้าต่าง  ทั้งย่อเล็กสุด, ขยายใหญ่สุด และปิดโปรแกรม
Minimize  button
เป็นปุ่มที่ใช้ย่อโปรแกรม BassBox Pro จากตำแหน่งหน้าจอ  ลงไปเก็บไว้ในแถบงานด้านล่างของหน้าจอ โดยยังไม่ปิดใช้งานโปรแกรม  และสามารถเรียกคืนกลับมาได้โดยการคลิกที่แถบงานด้านล่าง
Maximize  button
เป็นปุ่มที่ใช้ขยายโปรแกรม BassBox Pro ให้มีขนาดเต็มหน้าจอพอดี  ซึ่งปุ่มนี้เมื่อคลิกซ้ำอีกครั้งจะเป็นการนำหน้าต่างโปรแกรมหลักกลับไปเป็นขนาดเดิมก่อนหน้านี้
Close  button
ปุ่มนี้เมื่อคลิกจะมีลักษณะทำงานเหมือนกับปุ่ม Quit  ที่อยู่ในแฟ้มรายการ โดยมันจะทำการปิดโปรแกรม และก่อนที่โปรแกรมจะถูกปิดลงนั้น  ท่านอาจจะได้รับข้อความบอกให้ทำการเก็บ/ไม่เก็บข้อมูลในช่องงานออกแบบต่างๆ  เสียก่อน
Menu bar
เป็นแถบรายการที่ประกอบด้วยคำสั่งต่างๆ  ที่ใช้งานในโปรแกรม โดยคำสั่งต่างๆ  เหล่านี้ยังสามารถใช้ปุ่มลัดจากคีย์บอร์ดในการสั่งงานได้เช่นกัน  ซึ่งมีปรากฏให้เห็นทางด้านข้างของคำสั่งต่างๆ ในแฟ้มรายการ
Design  panel
ช่องงานออกแบบที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับลำโพงที่นำมาใช้ออกแบบ  และองค์ประกอบของงานออกแบบ อาทิ รูปแบบตู้ ฯลฯ  โดยสามารถเลื่อนดูรายละเอียดได้ทั้งแบบบนลงล่าง และแบบซ้ายไปขวา
Design  title bar
แสดงให้ทราบถึงหมายเลขงานออกแบบ และปุ่มเก็บข้อมูล, ปุ่มคัดลอก  และปุ่มปิดงานออกแบบ  โดยแถบงานนี้จะสว่างขึ้นเมื่อช่องงานออกแบบนี้ถูกเรียกใช้
Save  button
ใช้เพื่อจัดเก็บงานออกแบบเข้าไว้ในแฟ้มงานออกแบบของ BassBox  ถ้าเป็นงานออกแบบใหม่  ท่านจะได้รับช่องว่างเพื่อตั้งชื่องานออกแบบขึ้นใหม่
Copy  button
ใช้เพื่อการคัดลอกช่องงานออกแบบ  ซึ่งแนะนำให้ใช้คัดลอกเมื่อต้องการงานออกแบบใหม่  และต้องการนำเอาข้อมูลจากช่องงานออกแบบเดิมไปใช้งานต่อ
Close  button
ใช้เพื่อปิดช่องงานออกแบบนั้นๆ  โดยต้องตรวจสอบก่อนว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงนั้นเรียบร้อยแล้ว  โปรแกรมจะไม่มีการข้ามตัวเลขช่องงานออกแบบ เมื่อปิดช่องงานออกแบบหนึ่งไปแล้ว  หมายเลขช่องงานออกแบบจะถูกเรียงลำดับใหม่ทันที
Driver properties  button
เป็นปุ่มเพื่อใช้ดึงข้อมูลของตัวขับเสียง(ลำโพง)จากชุดข้อมูลลำโพงที่ต้องการนำมาออกแบบตู้  เพื่อนำเข้ามาเก็บไว้ในหน้าต่างข้อมูลตัวขับเสียง สามารถใช้ปุ่ม Ctrl+D  บนคีย์บอร์ดเพื่อสั่งงานนี้ได้
Box properties  button
เป็นปุ่มที่ใช้ดีงข้อมูลรูปแบบตู้ จากชุดข้อมูลการออกแบบตู้  เพื่อนำมาเก็บไว้ในหน้าต่างข้อมูลรูปแบบตู้ สามารถใช้ปุ่ม Ctrl+B  บนคีย์บอร์ดเพื่อสั่งงานนี้ได้
Room/Car properties  button
เป็นปุ่มที่ใช้ดึงข้อมูลสภาพเสียงจากโครงสร้าง/จากรถยนต์  จากงานออกแบบลำโพงที่เลือกไว้เพื่อใช้กับในห้องหรือในรถยนต์ สามารถใช้ปุ่ม Ctrl+A  บนคีย์บอร์ดเพื่อสั่งงานนี้ได้
Plot  button
ใช้ปุ่มนี้เพื่อสั่งให้แสดงผลกราฟของงานออกแบบเพียงหนึ่งเดียวหรือทั้งหมด  และแบบเฉพาะกราฟตอบสนองความถี่อย่าง  หรือรวมกราฟที่ต้องแสดงทั้งหมด
Single Window  Mode
เป็นการแสดงผลกราฟแต่ละครั้งในหน้าจอเดียว เมื่อคลิกที่ปุ่ม Plot  หนึ่งครั้ง จะแสดงกราฟทั้งหมดในหน้าต่างเดียว แต่เมื่อกดปุ่ม Alt  ค้างไว้ขณะที่คลิกปุ่ม Plot  จะแสดงกราฟเฉพาะที่เลือกเอาไว้อย่างเดียว
Individual Window  Mode
เป็นการแสดงผลกราฟแต่ละกราฟแยกหน้าจอกัน  และสามารถแสดงผลกราฟในแต่ละหน้าต่างได้มากกว่าหนึ่งหน้าต่าง โดยคลิกที่ปุ่ม Plot  เมื่อต้องการแสดงผลกราฟเพียงหน้าต่างเดียว ในโหมดนี้ปุ่ม Alt  จะไม่แสดงผลอะไร
Plot color
เป็นการเปลี่ยนสีของเส้นกราฟที่แสดงผล  มักใช้เมื่อมีการใช้หน้าต่างกราฟแสดงร่วมกันในช่องงานออกแบบต่างๆ เมื่อคลิกที่ปุ่ม  Plot การคลิกเปลี่ยนสีของเส้นกราฟนี้จะมีผลเมื่อมีการสั่ง Plot ครั้งต่อไป  แต่จะไม่มีผลเปลี่ยนแปลงเส้นกราฟที่แสดงบนหน้าต่างก่อนหน้านี้
Mini  preview graph
เป็นกราฟแสดงผลอัตโนมัติ  ที่ปกติแสดงผลในส่วนของการตอบสนองความถี่ของชุดงานออกแบบตู้ลำโพง มีช่วงกราฟ 5 Hz  ถึง 2k Hz มีสเกลในแนวตั้ง 9 dB/ช่อง  โดยจะทำการแสดงกราฟใหม่อัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของชุดงานออกแบบในลักษณะตามช่วงเวลาจริง  สามารถคลิกเมาส์ซ้ายที่บริเวณกราฟเมื่อต้องการปรับปรุง  และใช้คลิกเมาส์ขวาเพื่อเลือกคุณสมบัติการแสดงผลได้
Mini box type  picture
แสดงภาพจำลองขนาดเล็กของรูปแบบตู้ที่ใช้ในงานออกแบบ  ช่วยให้สามารถระบุชนิดของงานออกแบบตู้ได้อย่างรวดเร็ว  ภาพจำลองขนาดเล็กนี้ไม่ได้มีขนาดตามมาตราส่วนจริง 
Design properties  list
เป็นส่วนแสดงข้อมูลของงานออกแบบ  ทั้งข้อมูลในส่วนของตัวขับเสียง(ลำโพง)และข้อมูลในส่วนของรูปแบบตู้  ข้อมูลที่แสดงในส่วนนี้ไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้
Status  bar
เป็นตำแหน่งล่างสุดของหน้าต่างหลัก แถบแสดงสถานะนี้ใช้บอกถึง  กลเม็ดพิเศษ, โครงสร้าง  หรือสภานะของคำสั่งงานต่างๆ
การเริ่มต้นงานออกแบบใหม่
การเริ่มต้นงานออกแบบใหม่ในโปรแกรมนี้  มีวิธีการเข้าถึงได้ 2 ทางด้วยกันคือ วิธีแรกเข้าโปรแกรมโดยใช้ตัวช่วยออกแบบ(Design  Wizard) ที่มีขั้นตอนแนะนำเป็นลำดับขั้นในการเริ่มต้นงานออกแบบใหม่  การใช้ตัวช่วยออกแบบนี้ สามารถเลือกใช้ได้ในหน้าต่างเริ่มต้นของตัวโปรแกรม BassBox  Pro โดยคลิกที่ปุ่ม Run Design Wizard หรือสามารถเรียกใช้ในหน้าต่างหลักของโปรแกรม  โดยเลือกที่เมนู Tools
วิธีที่สองเข้าโปรแกรมโดยเริ่มต้นงานออกแบบใหม่  จากการเลือกที่ช่องคำสั่ง New Design ในเมนู File หรือใช้ปุ่ม Ctrl+N ที่คีย์บอร์ด  ภาพหน้าต่างของช่องงานออกแบบแสดงให้เห็นดังนี้
จากนั้นให้เข้าไปที่  driver และ box เพื่อจัดองค์ประกอบในการออกแบบตู้ เมื่อคลิกที่ปุ่ม Driver  ของช่องงานออกแบบ (หรือใช้ปุ่ม Ctrl+D) ก็จะปรากฏหน้าต่างขององค์ประกอบตัวขับเสียง  (ลำโพง) เพื่อให้ท่านกรอกข้อมูลโดยละเอียด หรืออท่านอาจเริ่มโดยการคลิกที่ปุ่ม Box  ของช่องงานออกแบบ (หรือใช้ปุ่ม Ctrl+B)  เพื่อเปิดหน้าต่างองค์ประกอบของตู้สำหรับการออกแบบ  ไม่มีข้อกำหนดในการเริ่มต้นงานออกแบบที่ตายตัว  เพียงแต่แนะนำให้ท่านเริ่มต้นที่การป้อนข้อมูลตัวขับเสียงก่อนแล้วจึงทำการออกแบบตู้จะเหมาะสมกว่า
หลังจากป้อนข้อมูลทั้งในส่วนของ  driver และ box เรียบร้อยแล้ว  เราขอแนะนำให้ท่านทำการกำหนดสภาพเสียงแวดล้อมให้ถูกต้อง  โดยถ้าเป็นการออกแบบเพื่อนำไปใช้กับระบบเสียงรถยนต์ มักจะเป็นปุ่มที่ปรากฏเป็น  “Car” ซึ่งถ้าหากเป็นการกำหนดโปรแกรมเพื่อนำไปใช้กับงานออกแบบระบบเสียงบ้าน  ตัวปุ่มจะปรากฏเป็น ”Room” โดยท่านสามารถเปลี่ยนการกำหนดนี้ได้ใน “General tab”  ของหน้าต่าง Preferences
เป็นเพราะความสัมพันธ์ของพื้นที่ห้องขนาดเล็ก  และเหตุผลของ “ผลกระทบตามช่อง” (cavity effects)  ภายในของยานพาหนะทั่วไปจึงมีการตอบสนองเสียงเบสเสริมเพิ่มขึ้นได้ถึง +12 dB/Oct  ในแถบความถี่ราวๆ 50 Hz การเพิ่มขึ้นของการตอบสนองสภาพเสียงที่ +12 dB/Oct  ของยานพาหนะนี้สามารถทำให้เกิดผลกระทบอย่างน่าอัศจรรย์กับการตอบสนองความถี่เสียงเบสรวมของงานออกแบบ  สามารถคลิกที่ปุ่ม “Car” (หรือ “Room”) เพื่อเปิดเข้าไปยังหน้าต่าง Acoustic  Properties  ที่ซึ่งท่านสามารถปรับตั้งการควบคุมนี้ได้ทั้งหมด
เมื่อสิ้นสุดงานออกแบบใหม่  ควรสั่งแสดงผลกราฟและประเมินคุณค่าในประสิทธิผล  เพื่อให้ทราบว่าระบบของเราได้การตอบสนองความถี่อย่างที่ออกแบบไว้ไหม?  มีระดับความดังเสียงที่เพียงพอหรือไม่?  ตัวขับเสียงเองมีระยะชักที่พอเพียงกับกำลังวัตต์สูงสุดจากเพาเวอร์แอมป์หรือไม่?  ถ้าเป็นงานออกแบบตู้เปิด  ขนาดของท่อต้องใหญ่พอกับปริมาณของลมเพื่อหลีกเลี่ยงเสียงลมหวิวที่ปลายท่อ  และมีขนาดพอเหมาะกับการติดตั้งเข้าไปในตู้ลำโพงหรือไม่  รวมถึงมีขนาดพอเหมาะที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาการก้องกำทอนพุ่งพรวด(vent resonance  peak) การสังเกตที่กราฟแสดงผลนั้นจะเป็นคำตอบต่อสิ่งเหล่านี้  ถ้าหากผลที่ได้ยังไม่สมบูรณ์  ท่านสามารถทำการปรับเปลี่ยนและสั่งแสดงผลกราฟใหม่อีกครั้ง  จนกว่าทุกกระบวนการจะเสร็จสมบูรณ์  ท่านสามารถพิมพ์งานออกแบบนี้ออกทางเครื่องพิมพ์ด้วยคำสั่ง “Print Design” ในเมนู  File
รายการคำสั่งในโปรแกรม
คำสั่งเกี่ยวกับงานเอกสาร
New  Design
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อเริ่มต้นงานออกแบบใหม่  หลังจากคลิกที่คำสั่งนี้แล้ว โปรแกรมจะเปิดช่องงานออกแบบขึ้นมาบนหน้าต่างหลัก  (สามารถใช้แป้น Ctrl+N ที่คีย์บอร์ดได้)
Open  Design
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อเปิดงานออกแบบที่เคยเก็บเป็นแฟ้มไว้แล้วก่อนหน้านี้ในโปรแกรม  หรือในมีเดียอื่นๆ(สามารถใช้แป้น Ctrl+O ที่คีย์บอร์ดได้)
Save  Design
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อจัดเก็บงานออกแบบใหม่หรือที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่  โดยมีชื่อแฟ้มและเส้นทางที่จัดเก็บเหมือนเดิม  ถ้าเป็นแฟ้มใหม่จะใช้ชื่อมาตรฐานของโปรแกรม (สามารถใช้แป้น Ctrl+S  ที่คีย์บอร์ดได้)
Save Design  As...
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อจัดเก็บงานออกแบบใหม่  หรือต้องการคัดลอกงานออกแบบที่ปฏิบัติอยู่ไปยังแฟ้มใหม่และเส้นทางใหม่  โดยชื่อแฟ้มนั้นจะต้องมีนามสกุลเป็น “.bb6” ถ้าไม่กรอกนามสกุลลงไป  โปรแกรมจะเติมนามสกุลให้เองอัตโนมัติ
Print  Design...
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อพิมพ์งานออกแบบทางเครื่องพิมพ์  เมื่อคลิกที่คำสั่งนี้โปรแกรมจะเปิดหน้าต่าง “Print a BassBox Design” ขึ้นมา  เพื่อให้ท่านกำหนดโครงร่างของการพิมพ์ (สามารถใช้แป้น Ctrl+P  ที่คีย์บอร์ดได้)
Print  Setup
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อเลือกกำหนดเครื่องพิมพ์(กรณีต่อเครื่องพิมพ์หลายเครื่อง)  และ/หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของเครื่องพิมพ์  ที่สำคัญก่อนเลือกใช้คำสั่งนี้ต้องมั่นใจว่าท่านได้ต่อเครื่องพิมพ์เอาไว้เรียบร้อยแล้ว  การกำหนดเครื่องพิมพ์นี้ยังสามารถใช้งานผ่านส่วนของหน้าต่าง “Print a BassBox  Design” ได้
Quit
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อการปิดโปรแกรม  โดยท่านจะต้องทำการจัดเก็บ/หรือยกเลิกการจัดเก็บก่อนที่จะปิดโปรแกรม (สามารถใช้แป้น  Ctrl+Q ที่คีย์บอร์ดได้)
คำสั่งเกี่ยวกับการแก้ไข
Clear  Selected Design
เป็นคำสั่งเพื่อล้างข้อมูลเฉพาะงานออกแบบที่กระทำอยู่ ณ  ขณะนั้น เมื่อคลิกเลือกคำสั่งนี้ช่องงานออกแบบก็จะว่างเปล่าไม่มีข้อมูลใดๆ  เสมือนเริ่มงานออกแบบใหม่ โปรแกรมจะมีคำถามซ้ำให้แน่ใจว่าท่านต้องการล้างข้อมูลจริง  เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล
Clear All  Designs
เป็นคำสั่งเพื่อล้างข้อมูลในงานออกแบบทั้งหมดที่เปิดใช้งานอยู่  เมื่อคลิกเลือกคำสั่งนี้ช่องงานออกแบบทั้งหมดจะว่างเหล่าเสมือนเริ่มงานออกแบบใหม่  โปรแกรมจะมีคำถามซ้ำให้แน่ใจว่าท่านต้องการล้างข้อมูลเหล่านี้จริงๆ  เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล
Close All  Designs
เป็นคำสั่งเพื่อปิดช่องงานออกแบบทั้งหมด  โปรแกรมจะมีคำถามซ้ำให้แน่ใจว่าท่านต้องการปิดช่องงานออกแบบทั้งหมดนี้จริง  เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล
Database > Edit Driver  Data
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อเข้าไปแก้ไขข้อมูลของตัวขับเสียง(ลำโพง)ในฐานข้อมูลตัวขับเสียง  สามารถที่จะทำการแก้ไข, เพิ่มเติม และลบล้างข้อมูล
ข้อควรระวัง:  เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ  ทางที่ดีควรทำการสำรองข้อมูลนี้ไว้ก่อนการแก้ไขใดๆ โดยทำการสำรองข้อมูล (copy) แฟ้ม  “htaudio.mdb” ในแฟ้มหลัก BassBox Pro เอาไว้ในเส้นทางอื่นก่อน
Database  > Edit Company  Data
เป็นคำสั่งที่ใช้เพื่อเข้าไปแก้ไขข้อมูลของชื่อบริษัท/ผู้ผลิตลำโพงในฐานข้อมูลชื่อบริษัทลำโพง  สามารถที่จะทำการแก้ไข, เพิ่มเติม และลบล้างข้อมูล
ข้อควรระวัง:  เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ  ทางที่ดีควรทำการสำรองข้อมูลนี้ไว้ก่อนการแก้ไขใดๆ โดยทำการสำรองข้อมูล (copy) แฟ้ม  “htaudio.mdb” ในแฟ้มหลัก BassBox Pro เอาไว้ในเส้นทางอื่นก่อน
Database  > Compact Database
เป็นคำสั่งลบข้อมูลในฐานข้อมูลลำโพงแบบชั่วคราว  เพื่อให้สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ในภายหลัง  โดยโปรแกรมจะบีบอัดข้อมูลให้กลายเป็นแฟ้มชื่อ “htaudio.bak”  ซึ่งการนำข้อมูลนี้กลับมาใช้ใหม่ก็เปลี่ยนชื่อของแฟ้มแบ็คอัพ จากนามสกุล bak  ให้กลับมาเป็น mdb อีกครั้ง
Database > Repair  Database
เป็นคำสั่งที่ใช้ควบคู่กับ Database>Compact Database  เพื่อให้สามารถทำการซ่อมแซมความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับฐานข้อมูล อาทิ  การไม่สามารถเข้าถึงฐานข้อมูลได้ หรือมีข้อความแจ้งเตือนว่าไม่ใช่ฐานข้อมูลแบบ  Microsoft Access database  ให้คลิกเลือกคำสั่งนี้เพื่อนำเอาแฟ้มแบ็คอัพที่เคยทำไว้กลับมาใช้งาน  โดยโปรแกรมจะเปลี่ยนนามสกุล bak ให้กลับมาเป็น mdb อีกครั้ง  โดยข้อมูลที่ทำการซ่อมแซมนี้อาจไม่อัพเดท  หรือมีการตกหล่นของข้อมูลไปบ้าง
Preferences
เป็นคำสั่งเพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลงการจัดโครงร่างของหน้าต่าง  และแก้ไของค์ประกอบจัดตั้งในโปรแกรม BassBox Pro  โดยโครงร่างและองค์ประกอบเหล่านี้ถูกจัดเก็บเอาไว้ในแฟ้มชื่อ  “bbxpref.ini”
คำสั่งเกี่ยวกับกราฟแสดงผล
Display  Mode
เป็นคำสั่งเพื่อเลือกการแสดงผลในแบบ “Single Window” และ “Individual  Windows” โดยการแสดงผลแบบ “Single Window”  นั้นจะรวมเอากราฟแสดงผลทุกหมวดไว้ในหน้าต่างเดียวกัน  เพื่อให้ผู้ใช้คลิกเลือกดูได้ทีละกราฟแสดงผลที่แท็ดด้านข้าง  เป็นโหมดที่ใช้ได้ดีกับจอแสดงผลที่มีความละเอียดในระดับ VGA และ SVGA  เพราะสามารถจำกัดพื้นที่การแสดงผลได้  นอกจากนั้นยังใช้พื้นที่หน่วยความจำและทรัพยากรของระบบน้อยกว่า
การแสดงผลแบบ  “individual windows”  จะแยกกราฟแสดงผลแต่ละหมวดเพื่อแสดงออกมาในหน้าจอแต่ละหมวดเป็นอิสระ  เพื่อให้สามารถดูกราฟแสดงผลแต่ละหมวดได้ในเวลาเดียวกัน 
Show Graph >  Amplitude--Normalized
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟการตอบสนองของคลื่นปกติ  ซึ่งมักอ้างอิงถึงการตอบสนองความถี่เสียง มีเส้นมูลฐานปกติที่ 0 dB (สามารถใช้แป้น  Ctrl+F1 เพื่อสั่งงานได้)
Show Graph >  Amplitude--Custom
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟการตอบสนองของคลื่นตามปัจจัยของผู้ใช้  โดยอ้างอิงกับกำลังวัตต์หรือแรงดันไฟที่ป้อนเข้าไปในค่าปัจจัย  กราฟหมวดนี้จะแสดงผลในลักษณะของระดับความดังเสียง(SPL) ที่มาตรฐาน 1 เมตร (3.28  ฟุต) ที่ระบุไว้กับค่ากำลังวัตต์หรือแรงดันไฟ  ซึ่งโดยปกติกราฟแสดงผลหมวดนี้จะมีระดับความไวที่แตกต่างไปบ้างจากงานออกแบบพื้นฐาน  (สามารถใช้แป้น Ctrl+F2 เพื่อสั่งงานได้)
Show Graph > Max Acoustic  Power
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟของกำลังทางสภาพเสียงสูงสุด  เมื่อเทียบวัดที่ระดับความดังเสียง 1 เมตร (3.28 ฟุต)  กราฟนี้เป็นการกระจายกำลังทางสภาพเสียงรวมของลำโพงในทุกๆทิศทาง  ก่อนการเบี่ยงเบนทางเชิงเส้นและอุณหภูมิสูงเกินกำหนด (สามารถใช้แป้น Ctrl+F3  เพื่อสั่งงานได้)
Show Graph > Max Electric  Power
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟของกำลังทางไฟฟ้าขาเข้าสูงสุด  เป็นกำลังวัตต์สูงสุดจากเพาเวอร์แอมป์ที่ตัวลำโพงสามารถรองรับได้  ก่อนการเบี่ยงเบนทางเชิงเส้นและอุณหภูมิสูงเกินกำหนด (สามารถใช้แป้น Ctrl+F4  เพื่อสั่งงานได้)
Show Graph > Cone  Displacement
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟการขับเคลื่อนของกรวยลำโพง  ตามปัจจัยของกำลังวัตต์หรือแรงดันไฟ  โดยแสดงผลเป็นการเบี่ยงเบนของกรวยทั้งที่ตัวขับเสียงและแผ่นช่วยกระจายเสียง  ตามปัจจัยของกำลังวัตต์หรือแรงดันไฟที่ป้อนเป็นข้อมูล  เส้นกราฟที่มีความเข้มจางลงแสดงว่าอยู่เกินขีดจำกัดของการเบี่ยงเบนเชิงเส้นที่ตัวลำโพง(Xmax)  (สามารถใช้แป้น Ctrl+F5 เพื่อสั่งงานได้)
Show Graph > Vent Air  Velocity
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟการเคลื่อนตัวของลมในท่อระบายเบส  ตามปัจจัยของกำลังวัตต์หรือแรงดันไฟ มันจะแสดงให้เห็นถึงความเร็วลมภายในท่อระบายเบส  ตามปัจจัยของกำลังวัตต์หรือแรงดันไฟที่ป้อนเป็นข้อมูล  เส้นกราฟที่มีความเข้มจางลงแสดงว่ามีความเร็วลมมากกว่า 10%  ของความเร็วลมของเสียงในอากาศ อันอาจทำให้เกิดเสียงหอนและเสียงลมหวิวที่ปากท่อได้  (สามารถใช้แป้น Ctrl+F6 เพื่อสั่งงานได้)
Show Graph > System  Impedance
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟอิมพีแดนซ์ของระบบ  โดยแสดงเป็นอิมพีแดนซ์สุทธิของลำโพง ที่รวมถึงผลของเครือข่ายพาสซีฟภายนอก(crossover  network) ถ้ามีต่ออยู่, อิมพีแดนซ์ของเครือข่ายการชดเชยเสียง และชุดอุปกรณ์ L-pad  ต่างๆ (สามารถใช้แป้น Ctrl+F7 เพื่อสั่งงานได้)
Show Graph >  Phase
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟการตอบสนองทางเฟส  ที่แสดงให้เห็นว่ามีความต่างกันระหว่างสัญญาณขาออกของลำโพงกับสัญญาณขาเข้ามากน้อยเพียงไร  การหน่วงรั้งของสัญญาณนี้จะแสดงให้เห็นในเรื่องของการเลื่อนไปของเฟส(phase shift)  (สามารถใช้แป้น Ctrl+F8 เพื่อสั่งงานได้)
Show Graph > Group  Delay
เป็นคำสั่งเพื่อแสดงผลกราฟของกลุ่มการหน่วงรั้ง  เป็นการแสดงให้เห็นถึงความต่างกันระหว่างสัญญาณขาออกของลำโพงกับสัญญาณขาเข้ามากน้อยเพียงไร  โดยการหน่วงรั้งนี้จะแสดงให้เห็นเป็นคาบเวลา-มิลลิเซคกั้น (สามารถใช้แป้น Ctrl+F9  เพื่อสั่งงานได้)
Clear All Graph  Plots
เป็นคำสั่งเพื่อลบการวาดเส้นกราฟทั้งหมดในกราฟแสดงผล (สามารถใช้แป้น  Ctrl+Y เพื่อสั่งงานได้)
Clear All  Memories
เป็นคำสั่งเพื่อลบความจำของชุดจดจำรูปคลื่นกราฟทั้งหมด 7  หน่วยความจำ
คำสั่งเกี่ยวกับการทดสอบ
Driver
เป็นคำสั่งเพื่อเริ่มต้นขั้นตอนการทดสอบตัวขับเสียง  หรือการหาค่าปัจจัยของลำโพง โดยแต่ละขั้นตอนจะมีภาพจำลองของการต่อชุดวงจร  เพื่อแสดงถึงการทดสอบหาค่าพารามิเตอร์ในสัญญาณระดับต่ำ  และนำค่าปฏิบัตินั้นมาทำการคำนวณ(โปรแกรมคำนวณให้)  ในบางกรณีจำต้องใช้เครื่องมืออื่นๆประกอบตามสมควร(รายการเครื่องมือที่ต้องใช้มีแสดงไว้ในรายการแล้วในขั้นตอนเริ่มต้น)
Passive  Radiator
เป็นคำสั่งเพื่อเริ่มต้นขั้นตอนการทดสอบตัวช่วยกระจายเสียง  หรือการหาค่าปัจจัยของตัวช่วยกระจายเสียง  โดยแต่ละขั้นตอนจะมีภาพจำลองของการต่อชุดวงจร  เพื่อแสดงถึงการทดสอบหาค่าพารามิเตอร์ในสัญญาณระดับต่ำ  และนำค่าปฏิบัตินั้นมาทำการคำนวณ(โปรแกรมคำนวณให้)  ในบางกรณีจำต้องใช้เครื่องมืออื่นๆ  ประกอบตามสมควร(รายการเครื่องมือที่ต้องใช้มีแสดงไว้ในรายการแล้วในขั้นตอนเริ่มต้น)
คำสั่งเกี่ยวกับเครื่องมือของโปรแกรม
Design  Wizard
เป็นคำสั่งเพื่อเลือกใช้ตัวช่วยงานออกแบบ ตัวช่วยออกแบบในโปรแกรม  BassBox Pro จะช่วยในการออกแบบตู้ในลักษณะเป็นขั้นเป็นตอน
Wavelength  Calculator
เป็นคำสั่งเพื่อเปิดใช้หน้าต่างการคำนวณความยาวคลื่น  ซึ่งสามารถใช้การคำนวณความยาวคลื่นนี้เมื่อต้องการคำนวณหา “คลื่นค้างสะสม”  (standing wave) ตามความถี่ของตู้ที่ออกแบบ
Start X-over  Pro
เป็นคำสั่งเพื่อเลือกใช้โปรแกรม X-over เมื่อได้ติดตั้งโปรแกรม X-over  Pro เข้าไว้ในโปรแกรม BassBox Pro โดยโปรแกรม X-over Pro  นั้นเป็นโปรแกรมทำงานเกี่ยวกับการออกแบบพาสซีฟ-ครอสโอเวอร์โดยเฉพาะ  
คำสั่งเกี่ยวกับการช่วยเหลือ
On-Screen  Manual
เป็นคำสั่งเพื่อเปิดใช้คู่มือบนหน้าต่างโปรแกรม  ซึ่งมีการแยกหมวดหมู่เอาไว้อย่างละเอียด (สามารถใช้แป้น F1  ในการสั่งงานได้)
Using  Help
เป็นคำสั่งเพื่อเปิดใช้งานความช่วยเหลือในแบบ Microsoft  tutorial
About BassBox  Pro
เป็นคำสั่งเพื่อเปิดส่วนของข้อมูลโปรแกรม อาทิ หมายเลขซีเรียล,  ผู้ใช้ที่ลงทะเบียน และข้อมูลกำหนดสิทธิบัตร
ขอให้สนุกกับการคำนวนครั